ขั้นตอนการจัดฟัน
การจัดฟันเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ของฟัน เช่น ฟันยื่น ฟันเหยิน ฟันซ้อนเก ฟันห่าง เป็นต้น การจัดฟันมีหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งแต่ละประเภทก็มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไป
ขั้นตอนการจัดฟันโดยทั่วไปมีดังนี้
1. ปรึกษาทันตแพทย์
ขั้นตอนแรกคือปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินปัญหาของฟันและวางแผนการรักษา ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพช่องปาก พิมพ์ปาก และทำเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างกระดูกขากรรไกรและฟัน ทันตแพทย์จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของการจัดฟัน ค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการรักษา
2. เคลียร์ช่องปาก
ก่อนเริ่มจัดฟัน ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำการรักษาเพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมของช่องปาก เช่น การขูดหินปูน การอุดฟัน และการถอนฟัน การรักษาเหล่านี้จะช่วยให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาต่างๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นต้น
3. ติดเครื่องมือจัดฟัน
เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จะติดเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งมีหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสม เช่น เหล็กดัดฟันแบบติดแน่น เหล็กดัดฟันแบบติดแน่นแบบใส เหล็กดัดฟันแบบใส รีเทนเนอร์ เป็นต้น
4. พบทันตแพทย์ตามนัด
หลังจากติดเครื่องมือจัดฟันแล้ว คนไข้จะต้องพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน การปรับเครื่องมือจัดฟันจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน/ครั้ง การปรับเครื่องมือจัดฟันจะช่วยให้ฟันเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งที่ต้องการ
5. ถอดเครื่องมือจัดฟัน
เมื่อฟันเรียงตัวสวยงามแล้ว ทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟันออก คนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม
รายละเอียดของแต่ละขั้นตอน
1. ปรึกษาทันตแพทย์
ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากทันตแพทย์จะสามารถประเมินปัญหาของฟันได้อย่างถูกต้องและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ทันตแพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์และปัญหาของฟัน ตรวจสุขภาพช่องปาก พิมพ์ปาก และทำเอกซเรย์ฟัน ทันตแพทย์จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของการจัดฟัน ค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการรักษา
2. เคลียร์ช่องปาก
การทำการรักษาเพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมของช่องปากจะช่วยให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาต่างๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ เป็นต้น การรักษาเหล่านี้อาจรวมถึงการขูดหินปูน การอุดฟัน และการถอนฟัน
3. ติดเครื่องมือจัดฟัน
เครื่องมือจัดฟันมีหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสม เช่น เหล็กดัดฟันแบบติดแน่น เหล็กดัดฟันแบบติดแน่นแบบใส เหล็กดัดฟันแบบใส รีเทนเนอร์ เป็นต้น ทันตแพทย์จะเลือกประเภทของเครื่องมือจัดฟันที่เหมาะสมกับปัญหาของฟันและความต้องการของคนไข้
4. พบทันตแพทย์ตามนัด
การปรับเครื่องมือจัดฟันจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน/ครั้ง การปรับเครื่องมือจัดฟันจะช่วยให้ฟันเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งที่ต้องการ การปรับเครื่องมือจัดฟันอาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่อาการจะหายไปภายในเวลาไม่นาน
5. ถอดเครื่องมือจัดฟัน
เมื่อฟันเรียงตัวสวยงามแล้ว ทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟันออก คนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม รีเทนเนอร์จะต้องใส่อย่างน้อย 2 ปี หรือจนกว่าฟันจะคงอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
ข้อควรปฏิบัติระหว่างการจัดฟัน
ในระหว่างการจัดฟัน คนไข้ควรปฏิบัติดังนี้
- แปรงฟันและ floss ฟันอย่างสะอาดเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแข็งหรือเหนียว เช่น ถั่ว เมล็ดพืช กระดูกอ่อน กระดูกไก่ เป็นต้น เนื่องจากอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดหรือแตกได้
- หลีกเลี่ยงการกัดหรือเคี้ยวอาหารด้วยฟันหน้าโดยตรง เนื่องจากอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันเสียหายได้
- สวมหน้ากากป้องกันหากต้องเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจทำให้ฟันได้รับบาดเจ็บ
การจัดฟันเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายพอสมควร แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือฟันที่เรียงตัวสวยงามและแข็งแรง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน เช่น ฟันยื่น ฟันเหยิน ฟันซ้อนเก ฟันห่าง เป็นต้น ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม